ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยนั้น
ไม่ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่แทนตลาดสินค้าเกษตรจริง หรือ ตลาดสินค้าปัจจุบัน
ที่มีอยู่แล้วมากมายทั่วประเทศไทย.....
ตัวอย่างของตลาดสินค้าจริงที่พวกเราคุ้นเคยกันดี ได้แก่ ตลาดสดตามชุมชน ตลาดไทย
ตลาดสี่มุมเมือง ท่าข้าวกำนันทรงที่นครสวรรค์ ตลาดกลางยางพาราที่หาดใหญ่
หรือตลาดกลางกุ้งกุลาดำที่มหาชัย
แต่ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าจัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมการทำหน้าที่ตลาดสินค้าจริง
(ตลาดสินค้าปัจจุบัน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตลาดโดยรวม (Marketing
System) และ โดยตลาดสินค้าล่วงหน้าจะทำหน้าที่ (1)
เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการใช้ในการลดความเสี่ยงด้านราคา
(Hedging) และ (2) เป็นเครื่องมือการค้นหาราคาของสินค้าในอนาคต
(Price Discovery) ซึ่งผมขออธิบายหน้าที่หลักทั้งสองดังนี้
1. เครื่องมือการบริหารความเสี่ยง (Hedging)
เกษตรกรหรือผู้ประกอบการจะสามารถใช้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงด้านราคาได้
โดยเข้ามาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (Futures Trading) ควบคู่ไปกับกระบวนการค้าในตลาดสินค้าจริงที่ทำกันอยู่แล้วตามปกติ
ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านขาขาย ประกันความเสี่ยงด้านราคาขาย (Short Hedgers) เช่น เกษตรกรที่พร้อมที่จะขายข้าวในอีก 2 เดือน
สามารถลดความเสี่ยงจากการตกต่ำของราคาข้าวได้โดยการเข้ามาขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า
ในทำนองเดียวกัน ผู้ประกันความเสี่ยงด้านราคาซื้อ (Long Hedgers) เช่น ผู้ส่งออกที่มีภาระในการส่งออกข้าวในอีก 2 เดือน
ก็สามารถลดความเสี่ยงของตนจากการแพงขึ้นของต้นทุนได้
โดยการเข้าซื้อล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
ปัจจุบัน ซึ่งไทยยังไม่มีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
ผู้ประกอบการก็ไม่มีเครื่องมือในการประกันความเสี่ยงด้านราคา
ผู้แปรรูปสินค้าเกษตรเช่น โรงสี ไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากพยายามลดความเสี่ยงของตนโดยการกดราคาซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา
แต่หลังจากที่มีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า โรงสีก็สามารถลดความเสี่ยงของตนได้โดยซื้อขายผ่านตลาดสินค้าล่วงหน้า
และ
ชาวนาผู้ที่อาจจะไม่เข้ามาซื้อขายโดยตรงในตลาดสินค้าล่วงหน้าก็สามารถใช้ราคาในตลาดล่วงหน้า
เป็นราคาอ้างอิงในการทำสัญญาขายล่วงหน้า (Forward) โดยตรงกับโรงสีได้
ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่าง ชาวนากับโรงสีจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นว่าที่เป็นอยู่ก่อนมีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
2. เครื่องมือการค้นหาราคาสินค้าเกษตรในอนาคต
(Price
Discovery)
ราคาและข้อมูลการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าเป็นข้อมูลที่เปิดเผย
ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน สื่อวิทยุโทรทัศน์ เหมือนกับราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ราคาสินค้าเกษตรที่ว่านี้เป็นราคาที่เกิด Demand และ Supply
ของสินค้าชนิดนั้นใน อีก 2 4 หรือ 6 เดือนข้างหน้า โดยกลไกตลาดฯ
เป็นผู้กำหนดราคาที่เหมาะสมของสินค้าเกษตรชนิดหนึ่ง ๆ ในอนาคต
ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลต่าง ๆ
ที่มีอยู่เช่น การเปลี่ยนไปของปัจจัยต่าง ๆ
ที่ผู้คนตลาดเชื่อว่าส่งผลกระทบต่อสภาพของอุปสงค์หรืออุปทานของสินค้าชนิดนั้น ๆ
ซึ่งในที่สุดจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรที่ซื้อขายกันอยู่
โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าเกษตรสามารถเห็นราคาข้าวขาว
5% ส่งมอบเดือน กุมภาพันธ์ 2547 แล้วใช้ราคาดังกล่าวมาวางแผนการผลิตของตนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น