AFET กับ 3 ปีที่ผ่านพ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 พฤษภาคม 2550

          วันนี้ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ให้ท่านผู้อ่านทราบนะครับว่า ในวันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม 2550 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นวันครบรอบ 3 ปีเต็ม ที่ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET ได้เริ่มเปิดการซื้อขายสินค้าล่วงหน้า ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วนั้น (วันที่ 28 พฤษภาคม 2548) AFET ได้เริ่มเปิดให้มีการซื้อขายล่วงหน้า หรือ Futures Trading ในสินค้ายางแผ่นรมควันชั้นสาม (Ribbed Smoked Sheet No.3) หรือ RSS3 Futures  โดยมีปริมาณการซื้อขาย (Volumes) ในวันนั้นที่ 44 สัญญา มูลค่าการซื้อขาย (Value) ประมาณ 12 ล้านบาท (ตอนนั้นยางราคาประมาณกิโลกรัมละ 54 บาท เทียบกับตอนนี้ยางราคากิโลกรัมละ 80 บาท)

          ในวันครบรอบการเปิดซื้อขายครั้งแรกในปีนี้  AFET จะจัดงานครบรอบ 3 ปี ขึ้น ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เวลา 08.30 - 12.00 น. ครับ ซึ่งภายในงานจะประกอบด้วยการปาฐกถาพิเศษเรื่อง นโยบายภาครัฐกับแนวทางการพัฒนาตลาดล่วงหน้าอย่างยั่งยืน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่าน เกริกไกร จีระแพทย์ (เวลา 09.00 - 10.00 น.) และเสวนาบนเวทีเรื่อง วิเคราะห์เจาะลึกกับการลงทุนในตลาดล่วงหน้า โดย ดร.ธรรมนูญ อานันโทไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุน  คุณชาลทอง ปัทมพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Commodity และ คุณชานนท์ ภู่เจริญยศ ตัวแทนโบรกเกอร์ใน AFET (เวลา 10.30 - 12.00 น.)  ผู้ที่สนใจขอเชิญลงทะเบียนเข้างานที่ website ของ AFET ที่เกี่ยวข้อง นะครับ

          จากวันแรกของการซื้อขายที่เริ่มด้วย RSS3 Futures มาถึงปัจจุบัน AFET มีสินค้าที่เปิดให้ซื้อขายล่วงหน้าแล้ว 3 ประเภท ได้แก่ ยาง ข้าว และ มันสำปะหลัง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 7 ชนิดของ Futures Contract ได้แก่ 1. RSS3 (ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น)  2. ยางแท่ง (STR20)  3. น้ำยางข้น (Latex)  4. มันเส้น (TC)  5. แป้งมัน (TS) 6. ข้าวขาว 5% (WR5) และ 7.ข้าวขาว 5% แบบ Both Options  (BWR5)  โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยประมาณ 400 - 500 สัญญาต่อวัน โดย Volumes ส่วนใหญ่กว่า 60% มาจาก RSS3 Futures และสินค้าที่มีแนวโน้มว่าจะมี Volumes เพิ่มขึ้นตามลำดับ คือ สินค้าน้องใหม่ BWR5 Futures

          BWR5 Futures ซึ่งเปิดให้มีการซื้อขายมาตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2550 มีข้อแตกต่างไปจาก Futures อื่นใน AFET ตรงเงื่อนไข Both Options ที่เปิดทางให้ผู้ซื้อหรือผู้ขาย เมื่อถึงวันซื้อขายสุดท้าย สามารถเลือกที่ไม่รับมอบหรือส่งมอบสินค้าจริง และปลดภาระสัญญาด้วยวิธีการชำระส่วนต่าง (Cash Settlement) ขณะที่ Futures Contract อื่นใน AFET ยังคงเป็น contract ประเภท Physical Delivery Contract ซึ่งกำหนดให้ต้องส่งมอบรับมอบสินค้ากันจริงหากถือสัญญามาพ้นวันซื้อขายสุดท้ายของสัญญาแล้ว

          การเพิ่มขึ้นด้านปริมาณการซื้อขาย BWR5 Futures ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ตามโครงการนำร่องการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล โดยอิงราคาซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ที่ระบุเงื่อนไขให้ผู้ชนะการประมูลข้าวตามโครงการนี้เสนอราคาประมูลมาเป็นส่วนต่าง (Basis) ของราคาอ้างอิง ใน AFET และต้องเข้ามาบริหารความเสี่ยงผ่าน AFET ด้วย

          นับได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการประมูลข้าวสารของภาครัฐ ที่ผสมผสานนำกลไกการซื้อขายที่โปร่งใสใน AFET มาเป็นส่วนช่วยให้การขายข้าวของรัฐบาลให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ทำให้ตลาด AFET สามารถทำหน้าที่ของ Futures Exchange ได้สมตามวัตถุประสงค์

          (หน้าที่หลักของ Futures Exchange ที่จัดตั้งมาทั่วโลกมีอยู่ 2 ประการ คือ การเป็นแหล่งราคาอ้างอิง และการเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Tool))

          รัฐบาลได้เปิดให้มีการประมูลในรูปแบบใหม่นี้มาสองครั้งแล้ว ในวันที่ 20 เมษายน 2550 และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา การประมูลทั้งสองครั้งแตกต่างกันตรงที่ การประมูลครั้งแรกใช้ราคา BWR5 Futures เดือน July 07 เป็นราคาอ้างอิง ในขณะที่การประมูลเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ใช้เดือน Aug 07 เป็นราคาอ้างอิง ถือเป็นโครงการนำร่องของการใช้ประโยชน์จากการเป็นแหล่งราคาอ้างอิงของ AFET ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเอกชนสามารถใช้เป็นตัวอย่างในการกำหนดราคาซื้อขายสินค้าล่วงหน้าในสัญญา Forward กับคู่ค้าของตนได้

          คงต้องมีการประเมินกันว่าโครงการนำร่องดังกล่าวประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างไร มีข้อดีมากกว่าการประมูลข้าวแบบเดิมๆ ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ อีกทั้งต้องจับตามองกันต่อว่า รัฐบาลจะมีแนวนโยบายการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการประมูลขายข้าวของภาครัฐ และ/หรือ นโยบายด้านสินค้าเกษตรต่อไปอย่างไร จะมีการนำ AFET เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องได้อีกหรือไม่ หัวข้อการปาฐกถาพิเศษเรื่องนโยบายภาครัฐกับแนวทางการพัฒนาตลาดล่วงหน้าอย่างยั่งยืนของท่านรัฐมนตรีเกริกไกร ในวันครบรอบ 3 ปี ของ AFET ถือได้ว่าถูกที่ ถูกเวลา และน่าสนใจอย่างยิ่ง คงต้องมาหาคำตอบร่วมกันที่ห้องประชุมอาจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ ในวันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม นี้ครับ--จบ--