วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Hurricane Futures

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 พฤษภาคม 2551

ผมเริ่มบทความวันนี้ด้วยความเศร้าสลดที่เกิดจากโศกนาฏกรรมพายุไซโคลน "นาร์กิส" ที่คร่าเอาชีวิตประชาชนชาวพม่า มอญ กะเหรี่ยง ไปแล้วนับหมื่นคน ไม่รวมถึงที่ยังสูญหายอีกหลายหมื่นคน

น่าแปลกใจมากครับว่า ในช่วงต้นที่ผมได้ยินข่าวว่า “นาร์กิส” ได้ขึ้นฝั่งที่ประเทศพม่า มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลพม่ายังยืนยันที่จะจัดให้มีการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2551 ให้ได้ ซึ่งเหมือนกับว่ารัฐบาลพม่าไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญเท่าไรกับ เจ้าพายุไซโคลนที่กำลังจะเข้าถล่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี อันเป็นเขตอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของประเทศเลย

ขณะที่เขียนบทความนี้ ก็ตกใจครับว่า ที่ได้ยินสำนักข่าว Associated Press รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 22,000 คน สูญหายอีกกว่า 40,000 คน แล้ว (7 พ.ค.51)

ประเภทของพายุขนาดยักษ์ ที่สร้างภัยพิบัติให้มนุษย์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการที่พวกเราคุ้นชื่อกันอยู่ไม่กี่ชื่อครับ อาทิเช่น "พายุไต้ฝุ่น" "พายุเฮอริเคน" หรือ ล่าสุดอย่างเจ้านาร์กิสที่เป็น "พายุไซโคลน"

โดยพายุลูกที่จะได้ถูกจัดให้เป็น "ไต้ฝุ่น" "เฮอริเคน" หรือ "ไซโคลน" นั้นจะต้องมีความเร็วลมอย่างน้อย 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งจะมีชื่อเรียกว่าอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดของพายุแต่ละลูก เช่น พายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิกช่วงตะวันตกเฉียงใต้ และแถวบริเวณออสเตรเลียจะเรียกว่า "ไซโคลน"

ส่วนคำว่า "ไต้ฝุ่น" จะใช้เรียกพายุที่เกิดในมหาสมุทรตะวันตกเฉียงเหนือ เช่น บริเวณประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ "เฮอริเคน" ที่ดูเหมือนว่าจะคุ้นหูพวกเราที่สุดจะใช้เรียกพายุที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกช่วงตะวันออกเฉียงเหนือ และ/หรือ มหาสมุทรแอตแลนติก อย่างเช่น เฮอริเคน "แคทรินา" ที่ถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

ในประเทศสหรัฐอเมริกานี้มีปัญหาเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนบ่อยครั้ง จนต้องมีหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับเรื่องพายุเฮอริเคนโดยเฉพาะที่ชื่อว่า ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (National Hurricane Center) มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา โดยเป็นหน่วยงานในสังกัดของ "National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA)" หน่วยงานระดับกรมที่ดูแลสารพัดเรื่องเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ เตือนภัยพายุ ติดตามภาวะภูมิอากาศ ดูแลสภาพแวดล้อมชายฝั่ง สนับสนุนการค้าขายทางเรือ ฯลฯ

สิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมมากก็คือต้นสังกัดของ เจ้ากรม NOAA ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับพยากรณ์อากาศและงานอื่นที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ครับว่ากรม NOAA ที่ว่านี้สังกัดอยู่กับกระทรวงที่ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย นั่นคือ อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ (U.S. Department of Commerce) !!!

หน่วยงาน NOAA มีพันธกิจดังนี้ครับ 1) เข้าใจและพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงใดๆ ของสภาวะสิ่งแวดล้อมโลก 2) อนุรักษ์และจัดการทรัพยากรชายฝั่งและในทะเลให้เป็นไปตามความจำเป็นของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (www.noaa.gov) โดยการที่หน่วยงานอย่าง NOAA สังกัดภายใต้กระทรวงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา ก็อาจเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า การค้าขายล้วนมีความเกี่ยวข้องกับสภาวะลมฟ้าอากาศและสิ่งแวดล้อมทั้งชายฝั่งและในมหาสมุทรแทบทั้งสิ้น

สภาพดินฟ้าอากาศ รวมถึงการเกิดขึ้นของพายุประเภท "ไซโคลน" หรือ "เฮอริเคน" หากป้องกันไม่ดีย่อมก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (เห็นได้ชัดเจนในประเทศพม่าขณะนี้) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสถิติของการเกิดพายุเฮอริเคนแทบทุกปี โดยเฉพาะรัฐยอดฮิตที่มักเป็นเหยื่อของเฮอริเคนหนีไม่พ้น ฟลอริดา ลุยเซียนา และรัฐอื่นๆ ตามชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก

เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากพายุเฮอริเคน Chicago Mercantile Exchange หรือ CME (ซึ่งปัจจุบันได้รวมกับตลาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง Chicago Board of Trade ไปเป็น CME Group แล้ว) จึงได้ออกแบบ และนำเสนอสินค้า Hurricane Futures ในปี 2007 ซึ่งรูปแบบการซื้อขายล่วงหน้าเหมือนกับที่มีในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของไทย (AFET) ต่างเพียงสินค้าใน AFET เป็นสินค้าเกษตรหลักของไทย ได้แก่ ยาง (Rubber Futures) ข้าว (Rice Futures) และมันสำปะหลัง (Tapioca Chip Futures)

ขณะที่สินค้า Hurricane Futures ที่ CME นำออกมาให้ซื้อขายล่วงหน้านั้น มีสินค้าอ้างอิงเป็นดัชนีที่เรียกว่า Carvill Hurricane Index ซึ่งเป็นดัชนีค่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพายุเฮอริเคน ยิ่งดัชนีแสดงค่าสูงเท่าไรหมายความว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพายุยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ตัวอย่างของการบริหารความเสี่ยงจาก Hurricane Futures เช่น นาย AAA มีความเสี่ยงจากการพัดเข้ามาของพายุ Hurricane Futures อาจทำการซื้อล่วงหน้า Hurricane Futures ไว้ (เข้ามามี Long Postion ไว้) ซึ่งเมื่อมีพายุเฮอริเคนเข้ามาก่อให้เกิดความเสียหายจริงๆ (Hurricane Index ปรับตัวสูงขึ้น) นาย AAA ก็จะมีกำไรจากการปรับตัวขึ้นของ Hurricane Futures ซึ่ง AAA ก็จะสามารถนำกำไรที่ได้จาก Futures Trading นี้ไปชดเชยความเสียหายของตนที่เกิดขึ้นจริงจากพายุเฮอริเคนได้

อย่างไรก็ดี Hurricane Futures นี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรจากทั้งจากผู้ประกอบการและจากนักเก็งกำไร โดยพิจารณาจากการที่ไม่มีการซื้อขาย Hurricane Futures เลยมาตั้งแต่ต้นปี 2551 แต่การที่ CME ได้นำเสนอสินค้าประเภท Weather Product อย่างเช่น Hurricane Futures ออกสู่ตลาดเป็นการแสดงให้เห็นว่ากระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการซื้อขายล่วงหน้านั้นได้วิวัฒนาการไปอย่างมากแล้ว เมื่อเทียบกับสินค้าเกษตรพื้นฐาน เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี หรือถั่วเหลือง ซึ่งเป็นประเภทสินค้ากลุ่มแรกๆ ที่ได้มีการนำออกมาซื้อขายล่วงหน้าเมื่อกว่า 150 ปีที่แล้ว

ย้อนกลับมาดูการซื้อขายล่วงหน้า หรือ Futures Trading ในบ้านเรา ที่เปิดให้ซื้อขายกันมาแล้วประมาณเกือบ 4 ปี หากจะเปรียบเทียบก็เสมือนเป็นเด็กเพิ่งหัดเดินเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น